Web 2.0 คืออะไร (เว็บ 2.0)
หลาย ๆ คนคงเคยได้เห็นคำว่า web 2.0 ปรากฎในเว็บไซต์ต่าง ๆ บ้างแล้ว มุมมองของ web 2.0 นั้นเป็นมุมมองที่สามารถมองได้ 2 ด้าน ทั้งด้าน Developer และทางด้าน End User โดยมีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์
เราจะมาดูกันว่ามุมมองทั้ง 2 มอง web 2.0 นั้นเป็นอย่างไร
ในมุมมองของนักพัฒนาโปรแกรม มอง web 2.0 เป็นลักษณะนี้ครับ
Web 1.0 |
|
Web 2.0 |
DoubleClick |
--> |
Google AdSense |
Ofoto |
--> |
Flickr |
Akamai |
--> |
BitTorrent |
mp3.com |
--> |
Napster |
Britannica Online |
--> |
Wikipedia |
personal websites |
--> |
blogging |
evite |
--> |
upcoming.org and EVDB |
domain name speculation |
--> |
search engine optimization |
page views |
--> |
cost per click |
screen scraping |
--> |
web services |
publishing |
--> |
participation |
content management systems |
--> |
wikis |
directories (taxonomy) |
--> |
tagging ("folksonomy") |
stickiness |
--> |
syndication |
จะเห็นว่าในมุมมองของนักพัฒนาโปรแกรม มองถึง Technology ในการนำมาพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับการใช้งานมากขึ้น เช่นมีการนำ AJAX RIA มาผสมผสานกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบที่เอื้อต่อการใช้งานของ End User
ที่นี้เราจะมาดู มุมมองของ End User บ้างครับ
ในอดีตเว็บไซต์ในมุมมองของ End User จะต้องมีผู้ให้บริการข้อมูล ที่เราเรียกว่า Content Provider เช่นหากเป็นเว็บ www.naxza.com ผู้ให้ข้อมูลก็คือ webmaster ของ www.naxza.com แต่ว่าหากเป็น web 2.0 แล้ว End User เองจะสามารถสร้าง content เองได้ ภายใต้เว็บนั้น ๆ ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้เกิดบริการต่าง ๆ ตามมามากมายเช่น Blog , White Board , share photo ต่าง ๆ , Bittorrent
ซึ่ง web 2.0 นี้เอง ทำให้พฤติกรรมการใช้งานของ End User เปลี่ยนไป จนอาจจะกลายเป็นวัฒนธรรมในการใช้งาน Internet ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลดี หรือ ผลเสีย ต่อวัฒนธรรมของมนุษยชาติได้ จึงได้เกิดการประชุม Web 2.0 Conference ที่ผ่านมาและได้มีการวาด mind map ขึ้นมา เพื่อหาข้อสรุปทิศทางของการเปลี่ยนแปลงสู่ web 2.0 อย่างแท้จริง
สรุปก็คือ web 2.0 คือแนวทางใหม่ในการใช้งาน Internet มองให้เว็บไซต์ เป็นรูปแบบ platform คล้าย ๆ ระบบปฏิบัติการ ที่เปิดเครื่องปุ๊บมันก็ทำงานปั๊บ เหมือนกันหลาย ๆ คนเปิดเครื่องปุ๊บ ก็เช็คเมล์ (hotmail) ปั๊บ อะไรประมาณนั้นครับ ที่สำคัญคือมุมมองของข้อมูล web 2.0 พยายาม มองเรื่องของการแชร์ข้อมูล เป็นเจ้าของข้อมูลเอง ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าในอนาคตผู้ที่ครอบครองข้อมูลมากที่สุด จะได้เปรียบในด้านธุรกิจมากที่สุด แนวคิด web 2.0 จึงมีมาเพื่อควบคุมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งาน Internet ในอนาคตนั่นเองครับ
บทความโดย ณัฐธัญ เตชะกาญจนวงศ์ www.naxza.com
|